ปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ยอมสุด ๆ หลังปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยไม่ได้อภิปราย พล.อ. ประวิตร - พล.อ. อนุพงษ์, วิษณุ กับกลยุทธ์ฟุตบอล ถ่วงเวลา-เตะตัดขา-สับขาหลอก พวกเดียวกันหักหลังกันเอง
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ต้องสิ้นสุดลง หลังฝ่ายรัฐบาลไม่ยินยอมให้มีการขยายเวลาการอภิปราย จนฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ และมีการลงมติให้ใช้สิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน ซึ่งมีผลให้มีการปิดมติการประชุมปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยคะแนน 251 งดออกเสียง 7 ไม่ลงคะแนน 2
ทั้งนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงความไม่ชอบมาพากลของการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ โดยเฉพาะกลยุทธ์ฟุตบอล ถ่วงเวลา-เตะตัดขา-สับขาหลอก ที่มาจากพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน มีการเตะถ่วง สลับผู้ถูกอภิปราย และอื่น ๆ จนกลายเป็นว่ามีรัฐมนตรี 3 คนที่ไม่ถูกอภิปราย คือ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา และนายวิษณุ เครืองาม
- เริ่มต้นอภิมหากาพย์ กลิ่นตุ ๆ ตั้งแต่ก่อนเริ่ม กับคนที่ "คุณขอมา"
นายปิยบุตร กล่าวว่า ก่อนที่พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบ พรรคอนาคตใหม่ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ว่าจะมีการอภิปรายใคร ในประเด็นใด ซึ่งอนาคตใหม่ตั้งใจที่จะอภิปรายรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี รวม 5 คน คือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ, นายวิษณุ เครืองาม, พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า
อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเรื่อง "คุณขอมา" ไม่ให้มีการอภิปราย พล.อ. ประวิตร แต่ทางอนาคตใหม่ไม่ยอม เพราะเตรียมงานเอาไว้หมดแล้ว
- กลยุทธ์สับขาหลอก อุ้ม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ
นายปิยบุตร กล่าวว่า ก่อนที่จะอภิปราย มีการสลับสับชื่อของรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายตลอดเวลา ถึงกระนั้น ชื่อของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังถูกสลับไปคนสุดท้าย ซึ่งทางอนาคตใหม่ยืนยันว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องมีการอภิปราย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ และขอให้มีการแบ่งเวลาตามโควตาพรรค แต่ไม่มีความชัดเจน
อนาคตใหม่พยายามเสนอให้มีการอภิปราย พล.อ. ประวิตร ต่อจาก พล.อ. ประยุทธ์ แต่ทำไม่ได้ มีการยืนยันว่าต้องให้ พล.อ. ประวิตร เป็นคนสุดท้าย จึงมีการปรับแผนใหม่ให้ ส.ส. อนาคตใหม่ อภิปราย พล.อ. ประวิตร ต่อจาก พล.อ. ประยุทธ์ เลย
- กลยุทธ์เตะถ่วงเวลา ไม่มีการวางแผน แก้กันหน้างาน
ทางอนาคตใหม่สรุปมาแล้วว่าจะขอเวลาอภิปรายทั้งหมด 11 ชั่วโมง แต่อภิปรายวันแรกก็กินเวลาไปแล้ว เพราะรัฐมนตรีก็ตอบเยอะไปพอสมควร จึงมีการเจรจากันระหว่างวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล และตกลงให้วิปฝ่ายรัฐบาลได้เวลา 10 ชั่วโมง วิปฝ่ายค้านได้ 21 ชั่วโมง โดยเป็นการตกลงรับข้อเสนอโดยที่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้รู้เห็นด้วย
ในจำนวน 21 ชั่วโมงที่เหลือนั้น อนาคตใหม่ได้มาทั้งหมด 9 ชั่วโมง แต่เนื่องจากมีคนอภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ มาก จึงตกลงกันว่า ให้อภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ 3 วัน วันสุดท้ายอภิปราย รมต. 5 คนที่เหลือ และทุกพรรคก็รับข้อเสนอนี้หมด
- ส.ส. เพื่อไทย ดึงดัน ขออภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ เช้าวันที่ 4 ตามใจคนคนเดียวจนเสีย
อย่างไรก็ตาม มี ส.ส. คนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมอภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ ในช่วงค่ำวันที่ 3 แต่จะอภิปรายในเช้าวันที่ 4 ทางอนาคตใหม่จึงมีการไปพูดคุยกับ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงเดิม คือ อภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ 3 วัน วันสุดท้าย (วันที่ 4) อภิปราย รมต. 5 คนที่เหลือ เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตามใจคนคนเดียว
ทว่า ทางพรรคเพื่อไทยไม่ยอม และขอผ่อนผัน สลับให้อภิปราย ร.อ. ธรรมนัส วันที่ 3 แทน ซึ่งตามกติกาไม่ใช่แบบนี้ อีกทั้งการเจรจาก็เป็นไปอย่างลำบาก เพราะไม่รู้ว่าคนที่มีอำนาจตัดสินใจคนสุดท้ายของเพื่อไทยอยู่ที่ไหน วันนี้คนนี้พูดแบบนี้ อีกวันอีกคนพูดแบบหนึ่ง จึงทำให้ทางอนาคตใหม่ต้องปรับแท็กติก อภิปรายพ่วง ประยุทธ์-ธรรมนัส
- ปรับกลยุทธ์แต่ไม่รอด เพื่อไทยเอาคนมาแทรก-เผาเวลา จบที่การวอล์กเอาต์
ถึงจะมีการปรับแท็กติกและตกลงกันเรื่องเวลา และลำดับของคนที่จะถูกอภิปรายแล้ว แต่คนของพรรคเพื่อไทยยังอภิปรายเกินเวลา เอาคนมาแทรก จนกว่าจะได้อภิปราย ร.อ. ธรรมนัส ก็เวลา 23.00-03.00 น.
เมื่อวันที่ 4 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการอภิปรายเข้ามา ปรากฏว่า ส.ส. เพื่อไทย ที่ต้องการอภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ กลับไม่มาประชุม พออภิปรายก็กินเวลาคนอื่น รัฐมนตรีก็ตอบกันหลายชั่วโมงอีก ซึ่งนี่เหมือนกับการเตะถ่วงเวลาเพื่อไม่ให้อภิปราย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ
อนาคตใหม่เหลือผู้อภิปราย 4 คน 210 นาที และคนที่อภิปรายก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีใครกินเวลาสักคน ทว่า "พวกเขา" ก็เผาเวลาไปเรื่อย ๆ จนอนาคตใหม่เหลือเวลาแค่ 30 นาที จาก 210 นาที และรัฐมนตรีที่ต้องอภิปราย 3 คน คือ พล.อ. ประวิตร, นายวิษณุ, พล.อ. อนุพงษ์ จึงกลายเป็นได้อีกแค่ 1 คน
รัฐบาลเห็นโอกาสว่าเวลาเหลือไม่มาก ก็ไม่ยอมผ่อนผันแม้แต่น้อย จึงทำให้อนาคตใหม่วอล์กเอาต์มาอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา และจบที่การปิดประชุม โดยที่ 3 รัฐมนตรีอย่าง พล.อ. ประวิตร, นายวิษณุ, พล.อ. อนุพงษ์ ไม่ถูกอภิปราย
"ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นญัตติที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของพรรคฝ่ายค้าน แต่เรากลับถูก "โกง" เวลา
หากมัวแต่ขัดขากันแบบนี้คงไม่มีทางเอาชนะเผด็จการได้ หรือแท้จริงแล้วไม่คิดจะเอาชนะเผด็จการ เพราะจะเป็นแค่มวยล้มต้มคนดู
พวกเราพยายามใช้พื้นที่ของสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ เพื่ออย่างน้อยจะลดความโกรธของประชาชน ลดความไม่พอใจของประชาชน และมาแสดงออกกันที่สภาฯ ผ่านผู้แทนฯ ของเขา
เมื่อไรก็ตามที่ประชาชนสิ้นหวังกับสภาผู้แทนราษฎร และเห็นว่าสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เมื่อนั้นการเมืองนอกสภาก็จะเข้มข้นขึ้น"
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : hilight.kapook, เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น